ภายในขบวนรถนั้ตกแต่งด้วยภาพแมกไม้อันแสนอบอุ่นราวกับอยู่ในโลกของ Ghibli Studio




9:00น. สถานีรถไฟ Amanohashidate
วันนี้เราจะไป 1 ใน 3 ของสถานที่ที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น Amanohashidate กัน!
Amanohashidate คือ Miyazuwan ที่กั้น Yasomi และ Asonoumi ไว้ เป็นสันทรายยาวถึง 3.6 กิโลเมตร รูปร่างของทรายดุจดั่งสะพานข้ามสู่สรวงสวรรค์ จึงกลายมาเป็นชื่อ Amanohashidate นั่นเอง บนสันทรายนั้นมีต้นไม้เรียงรายกว่า 8000 ต้น จึงมีคำที่ว่า Hakushaseishou(ทรายสีขาวต้นสนสีเขียว) เป็นสถานที่อันเป็นที่รักของคนญี่ปุ่นมาเนิ่นนาน




ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีในการเดินผ่านเหล่าต้นสนที่เรียงรายไปยังอีกฝั่ง แสงอาทิตย์ที่ส่องประกายบนใบสนนั่นช่างสวยงาม เพียงแค่ได้มาเดินบนเนินทรายแห่งนี้ความเหนื่อยล้าที่มีมาก็หายเป็นปลิดทิ้ง






9.50น.
สวน Kasamatsu Kouen ที่อยู่อีกฝากสามารถมองลงมาเห็นสันทราย Amanohashidate ได้อีกด้วย จากทิศเหนือก็จะเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของสันทราย Amanohashidate ที่ได้รับขนามนามว่า "Shouryuukan"

สันทราย Amanohashidate ที่รูปร่างโค้งนั้นเมื่อมองแล้วก็เหมือนโลกคู่ขนานที่กลับด้านกัน ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของท้องฟ้าและทะเลที่กลับด้านอันสวยงาม




11:45น.
จากสวน Kasamatsu Kouen กลับสู่สถานี Amanohashidate ด้วยเรือเฟอร์รี่เพียง 15 นาที และเนื่องจากท้องก็เริ่มร้องแล้ว จึงมุ่งหน้าต่อไปทานมื้อเที่ยง ไปยัง　Monju Gosen ที่ร้านที่ชื่อว่า "Chitose Chaya Ryuuguu Soba" เทมปุระทั้งเจ็ดอย่างและโมจิชื่อดังของเมืองวางบนโซบะ ที่นี่เส้นโซบะทำโดยเชฟผู้มีฝีมือและทำจากแป้งโซบะของท้องถิ่นอีกด้วย




13:00น.
หลังจากทานเสร็จ ก็ได้ลองไป Amanohashidate View Land โซบะแห่ง Amanohashidate ที่แห่งนี้สามารถมองเห็น Shouryuukan ซึ่งสามารถมาเพลิดเพลินในช่วงเวลาที่มังกรกำลังมุ่งทะยานได้




14:00น.
เนื่องจากท้องก็เริ่มว่างแล้วก็เลยแวะทานราเมนซักเล็กน้อย กับร้านราเมนชื่อดังท้องถิ่น "Hashidate Kujikara Ramen" น้ำซุปของร้านนี้เป็นแบบโชยุแต่ก็ใช้วัตถุดิบของเมือง Tango อีกด้วย ซุปที่ทำจากไวน์, สาเก, เกลือ, ปลาตากแห้งนิโบชิ, ไก่บ้านและชาเกียวบัง ที่ซึมซับสู่เส้นราเมน ซึ่งทานกับเนื้อหมูชาชูแล้วก็เข้ากันอย่างมาก! หากมาเกียวโตแล้วล่ะก็ร้านนี้คือร้านที่คุณพบกับความอร่อยแน่นอน




16:00น.
สุดท้ายของการเดินทางมุ่งตรงสู่ Inewan Meguri ด้วยเรือเฟอร์รี่ จากสถานีรถไฟ Amanohashidate สู่ท่าเรือเฟอร์รี่นั้นเดินทางด้วยรถบัสแบบ Non-Stop ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ที่นี่มีที่พัก Funaya(ชั้น 1 เป็นชั้นจอดเรือ, ชั้น 2 เป็นห้องพัก)กว่า 30 หลังเรียงรายอยู่ จากเรื่องเฟอร์รี่ล่องเรือข้ามฟาก เหมือนกับโลกของ Studio Ghibli เรื่อง "From Up On Poppy Hill" เลยล่ะ




เมื่อพระอาทิตย์กำลังตกดินก็ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว การเดินทางด้วยรถบัสในยามค่ำคืนนั้นก็คิดถึงความสวยงามของใบไม้แดง ความสวยงามของสันทราย Amanohashidate ใข Tango no Umi ได้ทานราเมนท้องถิ่นแสนอร่อย เป็นการเดินทางที่ตราตรึงในใจ




เมื่อนั่งรถบัสมาถึงสถานีรถไฟก็เดินทางกลับด้วยรถไฟพิเศษ Kyoto Tango Railway




การเดินทางมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่น คิดว่า โตเกียว, โอซาก้าและเกียวโตเป็น 3 เมืองที่มีคนมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสถานที่สุดพิเศษอีกมากมาย เพียงได้ลองเข้าไปสัมผัสก็จะได้พบกับเสน่ห์ที่แตกต่างออกไปของญี่ปุ่น

เชิญมาเที่ยวชมสถานที่ต่างๆของญี่ปุ่น ชมความสวยงามของ 4 ฤดู อิ่มหนำกับอาหารญี่ปุ่นและราเมน และขอให้ทุกท่านได้ได้พบกับการเดินทางที่แสนพิเศษ

บทความนี้เป็นของ WILLER GROUP บริษัท ซึ่งถือเป็นบริษัท Highway Bus ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

การเดินทางในญี่ปุ่น สามารถเดินทางด้วยรถบัสยามค่ำคืนไปกับ WILLER Express!!

http://willerexpress.com/en/?mid=910