สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เราเลือกที่นั่งเป็นแบบ New Primium เพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มสำหรับเตรียมพร้อมท่องเที่ยวในเกียวโต ที่นั่งที่เลือกในครั้งนี้เป็นเก้าอี้นอนนุ่มๆ แบบโซฟาชั้นเยี่ยมที่มีความกว้าง 61 เซนติเมตร หมุนเก้าอี้ได้ 146 องศา ลืมความรู้สึกที่เคยนั่งรถบัสกลางคืนที่มีที่นั่งแคบๆ นั่งไม่สบายตัวไปได้เลย!

พักผ่อนอย่างสบายๆ ไปจนถึงจุดหมายปลายทางในตอนเช้ากันได้เลย



ช่วงเช้า เวลา 7.00 น.
มาถึงเกียวโตแล้ว! อาจจะไม่ค่อยมีใครรู้สักเท่าไหร่ แต่ที่ชั้นใต้ดินของเกียวโตทาวเวอร์มีโรงอาบน้ำด้วยนะ!
หลังจากเดินทางมาถึงโตเกียวด้วยรถบัสเที่ยวกลางคืนแล้ว ก่อนอื่นก็มาแช่น้ำร้อนที่นี่ เพื่อทำความสะอาดร่างกายและเตรียมความพร้อมกันกันเถอะ!



เวลา 9.00 น. นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเกียวโต
เดินเท้าจากเกียวโตทาวเวอร์ 3 นาที ก็จะพบกับป้ายจอดรถบัส

ในครั้งนี้ จะเข้าร่วมคอร์สเที่ยวชมวัดคินคะคุจิ (วัดทอง) , กินคะคุจิ (วัดเงิน) และวัดคิโยมิสึ (วัดน้ำใส) ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกของญี่ปุ่นครับ

ภายในรถบัส จะมีการแนะนำสถานที่ต่างๆ ในเมืองเกียวโตที่มองเห็นจากนอกหน้าต่างในระหว่างที่รถบัสวิ่งอยู่ ด้วยวีดีโอหรือเสียงพูด 3 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลี



เวลา 9.30 น. เดินทางถึงวัดคินคะคุจิ (วัดทอง)
สามารถเดินเที่ยวชมภายในวัดได้ตามอัธยาศัย จนถึงช่วงเวลาก่อนรถบัสจะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่อไป
อิ่มเอมไปกับความงามของวัดคินคะคุจิที่เปล่งประกายสีทองสวยงามท่ามกลางหมู่ไม้ที่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลได้ตามอัธยาศัย และหากมาชมวัดในตอนเช้าที่อากาศสดใส ก็จะมองเห็นวัดคินคะคุจิที่สะท้อนภาพกลับหัวบนบ่อน้ำได้ ถือเป็นหนึ่งในวัดที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น



ห้องชงชาที่ตั้งอยู่ภายในสวนของวัดคินคะคุจิ สามารถนั่งพักทานขนมญี่ปุ่นและชาเขียวได้ ในราคา 500 เยน



เวลา 10.30 น. เดินทางถึงวัดกินคะคุจิ (วัดเงิน)
วัดกินคะคุจิ (วัดเงิน) เป็นวัดในนิกายเซนที่มีเอกลักษณ์ คือ สวนทรายที่โดดเด่น
ในบางครั้งวัดเงินก็จะถูกเงาปกคลุม แต่หากวันไหนที่ท้องฟ้าและอากาศเป็นใจ ก็จะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของวัดอันสวยงาม







เวลา 12.00 น. เดินทางถึงวัดคิโยมิสุ (วัดน้ำใส)
วัดคิโยมิสุ เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,200 ปี อาคารหลักของวัดคิโยมิสุที่ถูกเรียกว่าเป็นระเบียงของวัด มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากในญี่ปุ่น มีสำนวนว่า "กระโดดจากระเบียงวัดคิโยมิสุ" หมายถึง การตัดสินใจทำเรื่องอันยิ่งใหญ่นั่นเอง



นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ วัดคิโยมิสุยังมีร้านค้าอีกมากมายให้เที่ยวชมกันอีกด้วย สามารถเช่าชุดกิโมโนแล้วเดินเที่ยวในวัดคิโยมิสุและเมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่นได้
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันบริเวณวัดคิโยมิสุแล้ว ก็นั่งรถบัสกลับมายังสถานีเกียวโต หากต้องการลงรถที่นี่ก็สามารถลงได้
สำหรับครั้งนี้ เราจะลงรถบัสที่นี่ เพื่อมุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ



เวลา 15.00 น. เดินทางถึงศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ
ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ เป็นศาลเจ้าชื่อดังที่ได้รับเลือกจาก TripAdvisor ว่าเป็น "สถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ" อันดับหนึ่ง 2 ปีซ้อน (ปี 2556 และ 2557) จากศาลเจ้าหลักถึงยอดเขาอินาริ มีประตูโทริอิ (ประตูศาลเจ้าแบบชินโต) เรียงต่อทอดยาวประมาณ 10,000 ต้น ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของป่า ไปพร้อมๆ กับการเดินปีนสู่ยอดเขาท่ามกลางกลิ่นไอแบบญี่ปุ่น



เดินทางถึงยอดเขา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางจะมีศาลเจ้าเล็กๆ หลายแห่งตลอดทางขึ้นเขา สามารถแวะเข้าไปเยี่ยมชมได้ เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา ก็จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบๆ ของเมืองเกียวโตได้



พอตกกลางคืน ก็เดินทางกลับไปในเมืองเกียวโตเพื่อไปชมไฟประดับใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดโชเรนอิน นอกจากไฟประดับใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ไฟที่ประดับต้นไผ่ก็ดูสวยงามไม่แพ้กัน สามารถเพลิดเพลินไปกับการชมไฟประดับได้ตามอัธยาศัย



สำหรับครั้งหน้า จะอัพบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเกียวโตครึ่งหลัง ในหัวข้อ "ท่องเที่ยว Umi no Kyoto ด้วยรถไฟขบวนใหม่ที่มีชื่อว่า Tango no Umi" นะครับ

บทความนี้ เป็นบทความของ WILLER GROUP ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ให้บริการรถบัสความเร็วสูงของญี่ปุ่น

ใช้เวลาท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นอย่างคุ้มค่าไปกับรถบัสของ WILLER EXPRESS
http://willerexpress.com/en/?mid=910